การเลือกหลอดไฟ led แบบมี sensor (กลางวันปิด-กลางคืนเปิด) เพื่อใช้ในที่ร่ม


เนื่องจาก Admin มีอายุเริ่มเข้าสู่หลักสี่ ความหลงลืมก็เริ่มมาเยือน
"ฟ้าสว่างแล้วแต่..ลืมปิดไฟค่ะ"

หลอด Led นอกจากจะช่วยให้เราประหยัดไฟได้แล้ว ในปัจจุบันราคาของหลอด Leb ก็ถูกมาก ส่วน Sensor แสงอาทิตย์ก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแล้ว เพราะอะไรเหรอคะ? เพราะว่าเค้าติดตั้งมากับหลอด Led แล้วนั่นเอง

เห็นโฆษณาในทีวีมีอยู่หลายยี่ห้อ ว่าแล้วก็ต้องหาไปซื้อมาลองใช้ซะแล้ว บริเวณที่ต้องการติดตั้งคือเสาไม้ในโรงจอดรถ ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ไม่มีผนังล้อมรอบ เมื่อได้มาแล้วทดสอบการใช้งานเลยจ้าาา



เมื่อเปลี่ยนหลอดไฟแล้ว เปิดสวิทช์ทิ้งไว้ได้เลย ปล่อยให้ Sensor แสงอาทิตย์ทำงานไปค่ะ ผลลัพธ์คือไฟติดเองโดยอัตโนมัติเวลาประมาณ 18.00 น. และดับเองในช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. ว๊าว ๆ ๆ เวิร์คค่ะเวิร์ค ^ ^

ว่าแล้วก็เดินผ่านกรงนุ้งหมาที่บ้าน ซึ่งต้องคอยเปิด - ปิด ให้ทุกเช้าเย็น วันไหนกลับบ้านช้า นุ้งหมาก็ต้องอยู่แบบมืด ๆ พอตอนเช้ารีบไปทำงานบางวันก็ลืมปิด เกิดปิ๊งไอเดียสิคะ ต้องจัดมาตรงนี้อีกซักหลอด ว่าแล้วก็จัดเลยค่ะ




เนื่องจากว่ากรงนุ้งหมาอยู่ในที่ร่มค่ะ มีผนังกั้น 2 ด้าน และจุดติดตั้งหลอดไฟอยู่ใต้ชายคา ซึ่งมีแสงส่องถึงน้อย ผลลัพธ์คือเมื่อติดตั้งแล้วไฟติดตลอดเลยจ้าาา แง ๆ... ไม่ยอมดับอัตโนมัติ Admin ลองเอาไปสลับกับหลอดไฟบริเวณโรงจอดรถ (จุดที่ติดตั้งจุดแรก) ปรากฏว่า Sensor หลอดไฟไม่ได้เสีย เปิด - ปิด เองได้อัตโนมัติ เอาไงล่ะทีนี้ จึงกลับไปถามข้อสงสัยจากร้านที่ซื้อมาค่ะ

พนักงานให้คำแนะนำว่าหากนำไปใช้ในที่ร่มใต้ชายคาที่แสงส่องถึงน้อย ต้องเลือกหลอดไฟสำหรับใช้กับโคมไฟดาวไลท์ เนื่องจากตัว Sensor มีความไวต่อการตรวจจับแสงได้ต่างกัน ก็ถึงบางอ้อเลยค่ะ จัดมาอีก 1 หลอด เมื่อนำมาทดสอบการใช้งานแล้วสามารถ เปิด - ปิด เองได้แล้วค่ะ เย้ ๆ ๆ \\(^o^)//

หากจะนำหลอดไฟ led แบบมี Sensor แสงอาทิตย์ไปใช้ในที่ร่ม
ใต้ชายคาที่แสงส่องถึงน้อย
ให้เลือกหลอด led ที่ใช้สำหรับโคมไฟดาวไลท์นะคะ



หลอดไฟ LED เซ็นเซอร์แสงอัตโนมัติ: ประหยัดไฟ ใช้งานสะดวก คุ้มค่าทุกพื้นที่

ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการประหยัดพลังงานและเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน หลอดไฟ LED ที่มีเซ็นเซอร์แสง (Light Sensor) กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของทั้งบ้านเรือนและองค์กรต่าง ๆ เนื่องจากสามารถ เปิด-ปิดเองอัตโนมัติตามสภาพแสง ช่วยให้ประหยัดไฟและลดภาระการควบคุมด้วยมือ


คุณสมบัติเด่นของหลอดไฟ LED เซ็นเซอร์แสง

เปิด-ปิดอัตโนมัติ
หลอดจะเปิดเมื่อสภาพแวดล้อมมืด (เช่นตอนกลางคืน) และจะปิดเองเมื่อมีแสงสว่างเพียงพอในเวลากลางวัน โดยไม่ต้องมีสวิตช์หรือการควบคุมด้วยรีโมต

ประหยัดพลังงานสูง
เมื่อผนวกกับเทคโนโลยี LED ที่ใช้พลังงานน้อยอยู่แล้ว หลอดประเภทนี้จึงยิ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ

ใช้งานง่าย
ไม่ต้องกังวลเรื่องลืมเปิดหรือลืมปิดไฟ ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่กลางแจ้งหรือมุมที่เข้าถึงยาก

ความคุ้มค่าและอายุการใช้งาน

อายุการใช้งานยาวนาน
หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 25,000 – 50,000 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแบรนด์

ลดค่าไฟฟ้าระยะยาว
แม้มีราคาสูงกว่าหลอดธรรมดาเล็กน้อย แต่การประหยัดไฟในระยะยาวจะคุ้มทุนอย่างแน่นอน

ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรหรืออุปกรณ์เสื่อมจากการเปิด-ปิดบ่อยครั้ง


วิธีเลือกซื้อหลอดไฟ LED เซ็นเซอร์แสง

  1. เลือกขนาดวัตต์ให้เหมาะกับพื้นที่
    เช่น 5-9W สำหรับหน้าบ้านหรือโคมเสาเตี้ย / 12-18W สำหรับพื้นที่กว้าง

  2. ดูระยะการตรวจจับแสงของเซ็นเซอร์
    เพื่อให้ตอบสนองต่อแสงอย่างแม่นยำ

  3. เลือกสินค้าที่มีมาตรฐาน มอก.
    เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพที่เชื่อถือได้

  4. เลือกยี่ห้อที่มีรีวิวดีหรือรับประกันสินค้า
    ป้องกันปัญหาไฟกระพริบหรือเซ็นเซอร์ทำงานผิดพลาด


พื้นที่ที่เหมาะสมในการติดตั้ง

  • บริเวณทางเดิน หน้าบ้าน หรือทางเข้าบ้าน
  • โรงจอดรถ หรือบริเวณหลังบ้าน
  • เสาไฟหน้าประตูรั้ว
  • ทางเดินในสวน หรือพื้นที่พักผ่อนกลางแจ้ง
  • ห้องเก็บของหรือทางเดินที่ไม่ต้องเปิดไฟทั้งวัน

ข้อควรระวังในการใช้งาน

อย่าติดตั้งใกล้แหล่งแสงแรงหรือแสงไฟถนน
อาจทำให้เซ็นเซอร์เข้าใจผิดและไม่เปิดไฟในเวลากลางคืน

ติดตั้งให้หลีกเลี่ยงฝนหรือความชื้น (หากไม่กันน้ำ)
ควรเลือกหลอดที่มีคุณสมบัติกันน้ำระดับ IP65 ขึ้นไป หากใช้กลางแจ้ง

ไม่ควรใช้ในห้องที่ต้องการควบคุมแสงเองอย่างแม่นยำ
เช่น ห้องทำงาน ห้องนอน


สรุป

หลอดไฟ LED พร้อมเซ็นเซอร์แสง ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความสะดวกและการประหยัดพลังงานในยุคปัจจุบัน ไม่เพียงช่วยลดภาระการควบคุมการเปิด-ปิด แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่รอบบ้าน ติดตั้งง่าย ใช้งานได้นาน หากเลือกซื้ออย่างเหมาะสมและติดตั้งในตำแหน่งที่ถูกต้อง ก็จะยิ่งคุ้มค่าและช่วยประหยัดพลังงานในระยะยาวได้อย่างชัดเจน