แอร์ไม่เย็น ตอนที่ 2 : รู้ไว้ไม่โดนช่างหลอก

จากประสบการณ์ตรงของ Admin ในการใช้แอร์บ้าน เมื่อแอร์มีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป หากแอร์มีอาการไม่เย็น (กรณีแอร์มีการติดตั้งได้มาตรฐานจากช่างผู้ชำนาญการ ดูแลรักษาอย่างดี ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอทุก 6 เดือน) สิ่งที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างแรกคือสิ่งที่รูปร่างเหมือนปลากระป๋องนี่ล่ะค่ะ แถ่น..แทน..แท๊นนน

คาปาซิเตอร์ หรือ แคปรัน

วิธีตรวจสอบเป็นอาการคาปาซิเตอร์เสียหรือไม่

1. เปิดสวิทช์แอร์แล้วไฟเข้าตามปกติ
2. พัดลมคอยเย็นหมุนทำงานตามปกติ
3. เมื่อเปิดแอร์ทิ้งไว้ 3 - 5 นาที พัดลมคอยล์ร้อน (ตัวที่อยู่นอกบ้าน) จะหมุนทำงานตามปกติ 
4. คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน แต่จะได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์พยายามที่จะทำงานเป็นระยะ ๆ แต่สตาร์ทไม่ออก (หากพบอาการแบบนี้ชัดเลยค่ะ หากเปิดทิ้งไว้นาน ๆ คอมเพรสเซอร์อาจไหม้ได้ค่ะ ทีนี้ล่ะงานเข้าชิ้นใหญ่เลย)

ครั้งแรกที่เกิดขึ้น Admin ก็ได้โทรเรียกช่างจากศูนย์ซ่อมมาเลยค่ะ เพราะยังไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้ว่าอาการแบบนี้เกิดจากอะไร เมื่อตรวจสอบแล้วช่างบอกว่าเป็นเพราะตัวคาปาซิเตอร์เสีย ต้องเบิกศูนย์ราคา 800 บาท รวมค่าแรงช่างอีก 400 งานนี้ Admin จ่ายไป 1,200 บาทค่ะคุณผู้อ่าน

ในเวลาต่อมาไม่นานแอร์อีกเครื่องมีอาการเหมือนกันเป๊ะเลยค่ะคุณขา รู้ได้ทันทีว่าเกิดจากอะไร แต่คราวนี้ Admin ตัดสินใจจะลงมือเปลี่ยนเองค่ะ ก็ได้ศึกษาข้อมูลจากหลาย ๆ เว็บ เมื่อ Upload ข้อมูลเข้าสมองแล้วก็ลงมือเลยค่ะ

วิธีเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ด้วยตนเอง

(หากคอยล์ร้อนอยู่สูงมาก แนะนำให้เรียกช่างผู้ชำนาญจะปลอดภัยกว่าค่ะ)

1. สับสวิทช์เบรคเกอร์ลงค่ะ
2. เนื่องจากตัวคาปาซิเตอร์อาจมีประจุไฟฟ้าค้างอยู่ ช่างเค้าจะมีวิธีคลายประจุไฟฟ้า แต่หากเป็นช่างผู้ชำนาญการเค้าจะรู้วิธีการสัมผัส (ต้องไม่สัมผัสโดนขั้ว 2 ขั้วพร้อมกันค่ะ เพราะอาจถูกไฟดูดได้ ถ้าคอยล์ร้อนอยู่สูงอาจทำให้ตกใจและตกลงมาจากที่สูงได้ค่ะ) แต่เนื่องจาก Admin ไม่มีเครื่องมือคลายประจุไฟฟ้า จึงใช้วิธีสับสวิทช์เบรคเกอร์ลงทิ้งไว้ 2 วัน เพื่อให้คลายประจุไปเอง และพยายามไม่สัมผัสโดน 2 ขั้วพร้อมกันเวลาเปลี่ยนค่ะ
3. ก่อนถอดขั้วสายไฟถ่ายรูปไว้เลยค่ะ ขั้วอะไรเสียบตรงไหน
4. ถือตัวคาปาซิเตอร์ไปเทียบค่าที่พิมพ์ไว้ด้านข้างค่ะ เอาค่า uF ให้เหมือนเดิม (Admin ไปซื้อที่ร้านอะไหล่แอร์ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ บ้านค่ะ ได้มาในราคา 180 บาท และเคยไปดูที่ร้านอมร ราคาประมาณ 120 บาท แต่ที่ร้านอมรขนาดอาจไม่เหมือนเดิมค่ะ จะใหญ่และสั้นกว่า แต่ถ้าค่า uF ด้านข้างเท่าเดิมก็ใช้กันได้ค่ะ)
5. นำมาเปลี่ยนแทนของเดิมค่ะ (เสียบให้เหมือนกับที่เราถ่ายรูปไว้นะคะ) ปิดฝาครอบให้เรียบร้อย
6. ยกเบรคเกอร์ขึ้น เปิดแอร์ทดสอบระบบค่ะ
7. เมื่อเปิดแอร์แล้ว รออประมาณ 3 - 5 นาที เมื่อพัดลมคอยล์ร้อน (ตัวนอกบ้าน) หมุนทำงานก็จะได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์สดาร์ท และทำงานได้ตามปกติค่ะ

งานนี้ Admin เสียไปตังค์เพียง 180 บาทเท่านั้นค่ะ

ประหยัดไปเป็น 1,000 เลยค่ะคุณขา